
เจนนี่ เล่าอดีตที่จนมากๆ แต่วันนี้มีบ้าน 100 ล้าน ช่วยยินดีฉันหน่อย
เป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวที่ชีวิตผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย สำหรับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ ที่ล่าสุด หลังจากที่ขยันทำมาหากินจนตั้งตัวได้สำเร็จ เจนนี่ก็พาตัวเองก้าวออกมาจากความจนที่เคยประสบมาตั้งแต่เด็กๆ จนวันนี้เจ้าตัวมีบ้านหลังละ 100 ล้านและมี 10 ธุรกิจในมือ
ล่าสุด เจนนี่ได้เล่าถึงอดีตที่แสนจะยากลำบากของตัวเองในวันวานพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้าเมื่อนึกถึงเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของตัวเองว่า
“นึกถึงวันนั้นนะ…
– วันที่นอนศาลาข้างทางเพราะไม่มีที่นอน ฝนตกฟ้าร้อง นั่งร้องกอดกัน 3 คนแม่ลูก เพราะไม่มีที่ไป
– วันที่ย้ายที่นอนเป็นว่าเล่นเพราะไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง
– วันที่ไม่รู้เลย ว่าคืนนี้จะต้องหนีไปที่ไหน หนีตอนไหน และหนีไปกับใคร
– วันที่แอบอยู่ในห้องมืดๆ 10 วัน 10 คืน เพราะหนีไอ้โม่ง
– วันที่ร้องไห้ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าจะมีใครมาทำร้ายตลอดเวลา
– วันที่ข้าว 1 กล่องต้องแบ่งกันกิน 3 คน
วันที่เดินเก็บเหรียญในหลาดนัดเพื่อหาเงินไปโรงเรียน
– วันที่ต้องย้ายโรงเรียนแบบไม่เคยได้ตั้งตัวเลยสักครั้ง
– วันที่ร้องเพลงคืนนึง 3-4 ร้านเพื่อเอาชนะความจน
– วันที่เอาต่างหูไปหยบขายในโรงเรียนเพื่อหารายได้
– วันที่เอารองเท้าไปขายตลาดนัดแล้วฝนตกขายไม่ได้
– วันที่เต้นเอาเป็นเอาเอาตาย 5 ชม. เพื่อแลกเงิน 250 บ.
– วันที่ร้องเพลงคาราโอเกะ ไม่มีค่าตัวรอแค่พวงมาลัย
– วันที่ขายน้ำปั่นได้วันละ 5 แก้ว
– วันที่ขับ 3 ล้อไปขายรองเท้า แล้วน้ำมันหมดขากลับตอนดึก
– วันที่ขับส่งน้ำเป็นกะติก กับ 3 ล้อพ่วงทั่วภูเก็ต
– วันที่ตื่นตี 3 ไปซื้อขนมจีนมาขายแล้วขายไม่ได้
– วันที่เลิกเรียนไปร้องเพลง ทำการบ้านบนรถ และกลับมาเพื่อไปเรียนตอนเช้า
– วันที่เกือบเรียนไม่จบ ป.ตรี เพราะจ่ายค่าเทอมล่าช้า
– และวันอื่นๆ อีกหลายวัน ที่ต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินมาประทังชีวิต เพื่อให้มีข้าวกินไปวันๆ
ยอมรับว่าคิดถึงวันเหล่านั้นเสมอ แต่สัญญาจะไม่มีวันกลับไปอยู่จุดนั้นอีกแน่นอน เพราะความจนมันน่ากลัว เลยทำให้มีแรงในการดิ้นรน เพื่อเอาชนะมัน และในเมื่อวันนี้ชนะแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องหาเรื่องเพื่อให้ตัวเองกลับไปจนอีก ความจนไม่ใช่กรรมพันธุ์ และฉันเป็นคนแรกของบ้าน ที่เอาชนะมันจนสำเร็จ”
นอกจากนี้ เจนนี่ ยังได้คอมเมนต์ต่ออีกว่า “จริงๆ มีอีกหลายวันเลยนะที่คิดถึง แต่เขียนแค่นี่ก็น้ำตาคลอแล้ว” และ “นึกถึงวันที่ ขับ 3 ล้อพ่วงไปขายรองเท้างานศพ ขากลับ น้ำมันหมด ตอนดึก นั่งรอจนเช้า” และ “อ้อ มีวันที่จ่ายค่าเทอมเป็นคนสุดท้ายของมหาลัยด้วยนะ” และ “แน่นอนพวกคุณไม่มีทางเห็นฉันในวันลำบาก เพราะคนจน ไม่เคยอยู่ในสายตาใคร แต่ช่วยยินดีกับความสำเร็จฉันหน่อย”
ทางด้าน ยิว ฉัตรมงคล ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมภรรยาของตัวเองว่า “เธอเก่งในแต่ละช่วงชีวิตมาตลอด แต่วันนี้เธอได้ใช้ความเก่งในเวทีที่ใหญ่ขึ้น และเหมาะกับเธอมากขึ้น ผลตอบแทนก็เลยมากขึ้นตาม ยินดีด้วยนะจ้ะ”
ใส่ความเห็น